วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

คำคม คำสอน คริสตจักรที่อยู่ในน้ำพระทัยพระเจ้า


“ เรามาค่ายไม่ได้มาแค่รับรู้ 
            แต่มาเพื่อเชื่อฟังและทำตาม” อ.พิษณุนาท

“อย่าแค่มาค่ายทุกปี 
      แต่จงมาเพื่อรับพระมหาบัญชาของพระเจ้า” อ.พิษณุนาท

“ ความเชื่อที่ผิดเหมือนยาเสพย์ติด 
        ความจริงติดสนิทในน้ำพระทัยพระเจ้า ” อ.สุนีย์

“ การแสวงหาน้ำพระทัยพระเจ้าไม่ได้หาสิ่งของที่หาย      แต่เป็นการแสวงหาการเปิดเผยของพระเจ้าที่มีต่อเรา ”  อ.สุนีย์

“ เราขาดแคลนเพื่อจะขอบคุณพระเจ้าในสิ่งที่เรามีอยู่   เราขาดแคลนเพื่อจะได้เห็นคุณค่าสิ่งที่เหลืออยู่”   อ.พิษณุนาท

“ อย่าเลือกคนดูดี  แต่จงเลือกคนดีของพระเจ้า”  อ.พิษณุนาท

“ เรารู้ทันโลก  เพื่อมีชัยชนะต่อโลก 
          เรารู้ทันโลก  เพื่อนำโลกกลับมาคืนดีกับพระเจ้า”  อ.พิษณุนาท

“ พระคุณไม่ได้ทำให้เราเหลิง ”  อ.พิษณุนาท

“ รูปแบบโบสถ์ไม่ได้สะท้อนถึงคริสตจักรที่อยู่ในน้ำพระทัยพระเจ้า
แต่เป็นลักษณะชีวิตของผู้เชื่อต่างหาก ”  อ.สมทบ

“ เราเปลี่ยนอดีตไม่ได้  แต่เราสร้างอนาคตใหม่ได้ ” อ.พิษณุนาท

“ ข่าวประเสริฐทำให้เราเป็นไท” อ.พิษณุนาท

“ งานที่ยิ่งใหญ่ต้องการคนที่กล้าหาญ ”
“ เดินกับพระเยซูไม่มีคำกล่าวโทษ  มีแต่การยกโทษเท่านั้น ” Ps.William

“ สิ่งที่มองไม่เห็นนั้นสำคัญกว่าสิ่งที่มองเห็น  เรามองไม่เห็นพระเจ้าแต่พระองค์อยู่กับเราเสมอ”  Ps.William

“ไม่มีใครหยุดเราได้  ถ้าเราเดินมาหาพระองค์  วันนี้จงเอาทุกปัญหามาไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า ” Ps.William

  เราต้องเดินในความชอบธรรมไม่ใช่ความอธรรม
 เดินอย่างผู้มีชัยชนะไม่ใช่ผู้พ่ายแพ้”  Ps.William

“มันไม่สำคัญว่าเราจะสูงหรือต่ำ  แต่เราต้องมีชีวิตที่แตกต่าง
จากผู้อื่นจึงจะสร้างสิ่งที่แปลกใหม่ได้” Ps.William

“ ใครก็ตามที่เดินด้วยวิญญาณกบฏไม่ใช่เดินกับพระเยซู” Ps.William


“พระเยซูเป็นของดีสำหรับทุกคน ความรอดก็มีสำหรับทุกคน” Ps.William

“ ปัญหาของคริสเตียนไม่ใช่ไม่รู้น้ำพระทัยพระเจ้า  แต่อยู่ที่การตัดสินใจที่จะทำตามน้ำพระทัยต่างหาก”  อ.โกวิทย์

  การตัดสินใจเป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้เราข้ามฟาก
ไปสู่น้ำพระทัยของพระเจ้าได้”  อ.โกวิทย์

“ ความอ่อนแอนั้นไม่ผิด 
        ถ้าความอ่อนแอนั้นมีพระเจ้าเป็นกำลัง”  อ.โกวิทย์

“ ทุกครั้งในการตัดสินใจเราต้องตั้งพระเจ้าเป็นหลักไม่ใช่ตัวเอง” อ.โกวิทย์

“สิ่งใดที่อยู่ในพระหัตถ์ของพระเจ้าสิ่งนั้นจะมีคุณค่า”  อ.พิษณุนาท

“การอยู่ในพระทัยพระเจ้าคือการทำให้พระเจ้าพอพระทัย” อ.พิษณุนาท

“ให้พระเจ้าต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดไม่ใช่ของเหลือ”  อ.พิษณุนาท

“ตาบอดไม่ได้ร้ายแรงกว่าใจบอด  ตามืดมิดดีกว่าใจมืดมิด” อ.พิษณุนาท

“ถวายตัวไม่ใช่แค่อยู่ในใจเท่านั้น” อ.พิษณุนาท

“ด้วยเหตุที่พระเยซูคริสต์รักเรา
ดังนั้นอย่าให้อดีตมาบงการชีวิตของเราในวันนี้” อ.หยุ่น

“ พระเจ้าเป็นคนที่ถือกุญแจแห่งการอวยพร  ดังนั้นประตูแห่งการอวยพรจะไม่มีวันปิด”  อ.หยุ่น

“อย่ามัวแต่ขะมักขะเม้นในการรับใช้
จนลืมที่จะมีชีวิตแห่งการอธิษฐานกับพระเจ้า”  อ.หยุ่น

“ ก่อนพระเยซูคริสต์ขึ้นสวรรค์
 พระองค์ไม่เคยพูดว่าคำว่า “ลาก่อน”  อ.หยุ่น

“การประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าต้องการ
การเอาจริงเอาจังและความร้อนรนจากเรา”  อ.หยุ่น

“แม้เราจะท่องพระคัมภีร์ผิด แต่พระเจ้าไม่เคยทำผิดพลาดเลย” อ.หยุ่น




วันอังคารที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555

ย้อนรอยค่ายความรัก

                   “....ค่ายความรัก  ความผูกพัน  ผูกสัมพันธ์สัมพันธ์ฉันและเธอ   ค่ายปีนี้ดีนะเออ    อยากชวนเธอไปด้วยกัน   พบพระเจ้า   ฟังพระคำ   ผ่านคำสอน   นมัสการ   แบ่งปันสายใยครอบครัวผูกพัน.....”   นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเพลงที่เราใช้ร้องหนุนใจกันไปค่ายความรัก  ความผูกพัน   ซึ่งมักจัดขึ้นในช่วงปิดเทอมของทุกปี    โดยมุ่งเน้นให้สมาชิกได้ไปดำเนินชีวิตติดสนิทกับพระเจ้าผ่านการนมัสการ  อธิษฐาน  และฟังคำสอน    เหมือนดังเทศกาลอยู่เพิงของชนชาติอิสราเอลนั้นเอง
ในแต่ละปีของการจัดค่ายเรามีจำนวนผู้เข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี เพราะเหตุของกิจกรรมในค่ายที่ตอบสนองทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของสมาชิกนั้นเอง เป็นที่กล่าวขานกันปากต่อปากว่า การได้ไปร่วมค่ายเพียง 5 วันจะเหมือนเติบโตกับพระเจ้า          ถึง 5 ปี   คนรุ่นแรกได้บอกเล่าให้เราได้รับรู้ว่าอดีตนั้นเป็นอย่างไรลองติดตามดูนะครับ
     “.....เสียงสรรเสริญนมัสการดังกระหึ่มห้องประชุม เสียงเชียร์กีฬาดังสนั่น ทั่วทั้งสนาม เสียงสนทนาประสาพี่น้อง และความรักที่ถูกแบ่งปันให้แก่กันและกันอย่างดาษดื่น นั่นคือ บรรยากาศค่ายความรักผูกพัน ที่ พวกเราชาวความหวังมีกันตั้งแต่เริ่มแรกและก็มีต่อไปเรื่อย ๆ ทุกปี และยิ่งนับวันคริสตจักรของเราเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่เราจะมีสัมพันธภาพกันอย่างลึกซึ่งนั้นก็คงจะยากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น ค่ายความรักผูกพันจึงเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของเราพี่น้องชาวความหวังทุกท่าน ด้วยเหตุนี้เองเรา..ชาวความหวังจึงต่างใจจดใจจ่อรอคอยที่จะมาร่วมเฉลิมฉลองในบรรยากาศอันแสนอบอุ่นใน "ค่ายความรักผูกพัน" ของทุกปี  และหากใครที่อยู่มาตั้งแต่สมัยเริ่มแรก ก็คงจะเห็นลำดับขั้นตอนของการเจริญเติบโตของค่ายความรักผูกพันนับตั้งแต่....
             1981  ชื่อ หัวข้อค่ายว่า “ถวายตัวรับใช้ในคริสตจักร”   จัดที่ ศรีราชา จ.ชลบุรี  ทำให้เราเข้าใจว่าคริสเตียนทุกคน คือ ผู้รับใช้ 
             1982  ที่  จ. ชัยนาท มีหัวข้อค่ายว่า “โตขึ้นกับพระคริสต์” เป็นการปูพื้นฐานความเชื่อคริสเตียนให้ก้าวข้ามสถานะภาพการเป็นเด็กฝ่ายวิญญาณ
             1983  ที่พัทยา  จ.ชลบุรี ชื่อค่ายว่า “ของประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์”
             1984  ที่บางแสน จ. ชลบุรี มีชื่อค่ายว่า  “นมัสการด้วยวิญญาณและความจริง”    วางรากฐานและบุกเบิกการนมัสการแบบใหม่ที่ทำให้พบพระเจ้าอย่างใกล้ชิด
             1985  ที่ศรีราชา จ.ชลบุรี หัวข้อค่าย “แสนยานุภาพ” ทำให้เราเห็นภาพคริสตจักรเป็นดังกองทัพที่ฮึกเหิมห้าวหาญ
             1986  ที่  จ. เชียงใหม่ มีชื่อค่ายว่า “พันธกิจ” เป็นค่ายครั้งแรกที่เรามี ครน. มาร่วมค่ายด้วย เช่น ความหวังพะเยา ความหวังสุราษฎร์ธานี ความหวังเชียงใหม่ เป็นต้น
             1987  ที่บางแสน  จ. ชลบุรี ชื่อค่ายว่า “ยุคสุดท้าย”
             1988  ที่กำแพงแสน จ. นครปฐม มีชื่อค่ายว่า “อาณาจักรพระเจ้า” ชีวิตคริสเตียนไม่ได้อยู่เพื่อตนเอง แต่อยู่เพื่ออาณาจักร
              1989  ที่กำแพงแสน “พันธสัญญา” จากค่ายครั้งนี้เป็นที่มาของคำที่พูดกันจนติดปากว่า ..คนความหวัง “รัก ผูกพันไม่ทอดทิ้งกัน”
              1990  ที่กำแพงแสน  จ. นครปฐม หัวข้อค่ายว่า “ฟื้นฟูในยุคสุดท้าย”
              1991  ที่บางแสน จ. ชลบุรี มีชื่อหัวข้อค่ายว่า “คริสตจักรที่มีสง่าราศี” เป็นการเตรียมประชากรของพระเจ้าให้ไปสู่ชุมชนที่มีสง่าราศีของพระเจ้า
              1992  ที่จังหวัดขอนแก่น มีชื่อหัวข้อค่ายว่า “ปฏิบูรณาการ”
              1993  ที่ศรีราชา  จ.ชลบุรี ชื่อหัวข้อค่ายว่า “สงครามฝ่ายวิญญาณ”
              1994  ที่สัตหีบ จ. ชลบุรี ชื่อหัวข้อค่ายว่า “คริสตจักรแห่งความมั่งคั่ง”
              1995  ที่พัทยา  จ. ชลบุรี มีชื่อค่ายว่า  “คริสตจักรที่เป็นเกลือและแสงสว่าง”   นักศึกษามีกิจกรรมทำประโยชน์ต่อสังคมชุมชนเมืองพัทยาครั้งแรก
              1996  ที่ พัทยา  จ. ชลบุรี มีชื่อค่ายว่า “ชุมชนที่ได้รับการปฏิสังขรณ์”
              1997  ที่ พัทยา จ. ชลบุรี มีชื่อค่ายว่า “ชุมชนแห่งพลังอธิษฐาน”
              1998  ที่ พัทยา  จ. ชลบุรี มีชื่อหัวข้อค่ายว่า “ชุมชนแห่งความดีเลิศ”
              1999  ที่ จ. ขอนแก่น มีชื่อหัวข้อค่ายว่า “คริสตจักรที่เต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”
               2000  ที่ จ.ขอนแก่น มีชื่อค่ายว่า “คริสตจักรที่มีพระคริสต์เป็นศูนย์กลาง”
               2001  ที่  จ. ขอนแก่น มีหัวข้อค่ายว่า “คริสตจักรแห่งการมีส่วนร่วม”
               2002  ที่  จ.  ขอนแก่น มีชื่อค่ายว่า “คริสตจักรแห่งความเชื่อ”
               2003  ที่มหาวิทยาลัยแม้โจ้ จ.เชียงใหม่ มีชื่อค่ายว่า “คริสตจักรที่ขับเคลื่อนด้วยพันธกิจ”
               2004  ที่  จ. ขอนแก่น มีชื่อค่ายว่า “คริสตจักรแห่งการอภิบาล”
               2005  ที่  จ.  ขอนแก่น มีชื่อค่ายว่า “คริสตจักรที่มีการบริหารจัดการ”
               2006 ที่  ม.ธรรมศาสตร์  ศูนย์รังสิต  จ.กรุงเทพ  มีชื่อค่ายว่า “คริสตจักรแห่งความหวัง”
               2007  ที่  จ. ขอนแก่น มีหัวข้อค่ายว่า “คริสตจักรแห่งสันติสุข”
               2008  ที่  จ.ขอนแก่น มีชื่อหัวข้อค่ายว่า “คริสตจักรแห่งความจงรักภักดี”
               2009  ที่ศูนย์กีฬาภาคตะวันออก จ.ชลบุรี พัทยา เรามีชื่อหัวข้อค่ายว่า “การปลูกอาณาจักรพระ เจ้า”
               2010  ที่ศูนย์กีฬาภาคตะวันออก จ.ชลบุรี เรามีชื่อหัวข้อค่ายว่า “คริสตจักรที่เต็มล้นด้วยพระสิริ”
               2011  ที่ศูนย์กีฬาภาคตะวันออก จ.ชลบุรี เรามีชื่อหัวข้อค่ายว่า “คริสตจักรที่สำเร็จอย่างยั่งยืน” และในค่ายครั้งนี้ยังครบรอบ 30 ปี ของครอบครัวความหวังของเราอีกด้วย
               และในอีกไม่กี่วันข้างหน้า.....พี่น้องพร้อมหรือยังที่จะพบกับค่ายความรักผูกพัน 2012  “คริสตจักรที่อยู่ในน้ำพระทัยพระเจ้า ”


            

วันพฤหัสบดีที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2555

ป้ายประกาศในโบสถ์ (Sign on Church Property)








 ไม่มีพระเจ้า—ไม่มีสันติสุข. รู้จักพระเจ้า—รู้จักสันติสุข
 "No God -- No Peace Know God -- Know Peace."

 “รับจัดทัวร์ไปสวรรค์ฟรี รายละเอียดโปรดติดต่อด้านใน”
"Free Trip to Heaven Details inside"

 ในกรณีต้องการรักษาอย่างเร่งด่วน รับแผ่นศิลาพระโอวาทไปเลย ทั้ง2แผ่น
An ad for St. Joseph's Episcopal Church has a picture of two hands holding stone tablets on which the Ten Commandments are inscribed and a headline that reads, "For fast, fast, fast relief, take two tablets."

 คนเราก็เหมือนกับถุงชา ต้องเติมน้ำร้อนลงไปก่อนที่จะรู้ว่าชาถุงนี้รสชาติเป็นยังไง
"People are like tea bags -- you have to put them in hot water before you know how strong they are."

 “เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนพระองค์ไม่ได้ประทานคณะธรรมกิจมาให้”
"God so loved the world that He did not send a committee."

 “สู้เพื่อความจริง (ไม่ให้ผุ) หมั่นศึกษาไบเบิ้ล”
"Fight truth decay -- study the Bible daily."

 “พระคัมภีร์ที่ฝุ่นจับ นำไปสู่ชีวิตที่จับแต่ฝุ่น”
"Dusty Bibles lead to Dirty Lives"

 “จะไปโบสถ์ อย่ามัวแต่รอให้รถ (บรรทุกศพ) นำคุณไป”
"Do not wait for the hearse to take you to church."

 “ถ้าชีวิตคุณมุ่งหน้าผิดทางประจำ พระเจ้าอนุญาตให้คุณกลับรถได้”
"If you're headed in the wrong direction, God allows U-turns."

 “ถ้าคุณยังไม่ชอบชีวิตในแบบที่เกิดมา ไปเกิดใหม่ (ในพระคริสต์) สิ”
"If you don't like the way you were born, try being born again."

”ดูจากการใช้ชีวิตแบบที่บางคนเป็นอยู่ พวกเขาคงต้องรีบไปหาซื้อประกันไฟแบบถาวรกันแล้ว” "Looking at the way some people live, they ought to obtain eternal fire insurance soon."

“เมื่ออยู่ในความมืด ให้เดินตามพระบุตร (Son)”
 "In the dark? Follow the Son."

 “ถ้านอนไม่หลับ อย่ามัวแต่นับแกะ แต่คุยกับผู้เลี้ยงจะดีกว่า”
 "If you can't sleep, don't count sheep. Talk to the Shepherd."